•เป็นหนังเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน
หากพูดถึงเรื่องเครื่องหนังแล้วหลาย ๆ คนจะนึกถึงแบรนด์อะไรกันบ้าง ที่เป็นที่พูดถึงกันไปทั่วโลก อย่างน้อยจะต้องมีแบรนด์ Gucci เข้ามาในหัวของใครหลายคนเป็นแน่ เพราะเขาโดดเด่นในเรื่องของกระเป๋าหนังซึ่งความเป็นกระเป๋าหนังก็มีหลายประเภทด้วยกัน เช่น หนังจระเข้ หนังงู หนังวัว เป็นต้น
จึงทำให้มีวิธีการดูแลที่แตกต่างกันออกไปในหนังแต่ละประเภท แต่โดยหลักแล้วเราไม่ควรที่จะนำกระเป๋าหนังไปซักทั้งใบ เพียงแค่ใช้ผ้านิ่มไม่มีสีชุบน้ำหมาด ๆ ก็เพียงพอ และไม่ควรให้กระเป๋าหนังเจอแสงแดดนานเกินไป และสำหรับคนที่คิดว่าจะไปขายกระเป๋าให้กับร้านรับซื้อกระเป๋า Gucci นั้น คุณควรที่จะระวังในเรื่องของการดูแลและการทำความสะอาดเป็นพิเศษ เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่เซ้นซิทีฟต่อกระเป๋าหนังมาก ๆ หากทำความสะอาดผิดวิธี
อาจทำให้กระเป๋า Gucci ของคุณนั้นมีราคาที่ตกลงหลายเท่าตัว งั้นในวันนี้เรามาดูวิธีดูแลการทำความสะอาดกับหนังแต่ละประเภทกันดีกว่า ว่าหนังแต่ละประเภทนั้นควรทำความสะอาดต่างกันอย่างไรเพื่อที่เราจะได้ขายให้ให้กับร้านรับซื้อกระเป๋า Gucci ได้ราคาดี ไม่ถูกกดราคาให้ตกลง
•การทำความสะอาดหนังแต่ละประเภท
1 หนังวัว
มีความคงทน แต่ควรให้ความชุ่มชื้นกับหนังโดยการทาน้ำยาสำหรับหนังลงไปก่อนเพื่อให้ความชุ่มชื้น
2 หนังงู
สามารถลงแว็กซ์หรือแลกเกอร์เพื่อป้องกันน้ำและสวยเงาอยู่เสมอ เพราะหากไม่ชงแว๊กซ์จะทำให้กรอบง่าย ซีดเร็ว
3 หนังจระเข้
หนังสามารถบวมน้ำได้ ควรฉีดสเปรย์กันน้ำ
4 หนังกลับ
ต้องระวังไม่ให้กระเป๋าเปียกน้ำโดยสามารถฉีดสเปรย์กันน้ำได้ เพราะสามารถเป็นรอยด่างได้ง่าย
5 หนังแกะ
อุดตันง่าย จึงไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีซิลิโคนหรือแว๊กซ์เพราะจะทำให้อุดตันรูขุมขนของหนังกระเป๋า
•ราคาไม่ตกแน่หากดูแลถูกวิธี
เราจะเห็นได้ถึงความแตกต่างของการดูแลทำความสะอาดหนังในแต่ละประเภทอย่างชัดเจน ซึ่งเราไม่สามารถที่จะทำความสะอาดหนังให้เหมือนกันได้หมด เพราะเนื่องจากถึงจะเป็นหนังเหมือนกัน แต่ก็เป็นคนละชนิด มีความแตกต่างและเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน จะเห็นว่ากระเป๋าหนังเหมือนกันแล้วดูแลแบบเดียวเหมือนกันหมดเลยก็ไม่ใช่เรื่องที้ถูกต้องเป็นอย่างมาก เราจึงควรให้ความสำคัญกับหนังในแต่ละประเภทและหากว่าใครที่คิดจะขายกระเป๋า Gucci ให้กับร้านรับซื้อกระเป๋า Gucci นั้น ถือควรใส่ใจเป็นพิเศษเลยกับในเรื่องนี้ เพราะหากดูแลทำความสะอาดผิดวิธี อาจทำให้เกิดความเสียหายในการที่จะขายครั้งต่อไปได้
•วิธีคิดภาษีนำเข้ากระเป๋าแบรนด์เนม
ราคาสินค้า X อัตราภาษีขาเข้า = อากรขาเข้า
(ราคาสินค้า + อากรขาเข้า) X อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% = ภาษีมูลค่าเพิ่มอากรขาเข้า + ภาษีมูลค่าเพิ่ม = ค่าภาษีนำเข้าทั้งหมดที่ต้องชำระ